วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คุนหมิง



ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.programholidays.com

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.programholidays.com
ป่าหิน คุนหมิง (Stone forest china) มียอดหินและเสาหินใหญ่น้อยตั้งเรียงรายกระจัดกระจายอยู่ตามเนินเขา หุบเขา และในพื้นที่ราบ ป่าหินแห่งนี้จัดว่าเป็นป่าหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ป่าหินแห่งนี้มีรูปลักษณ์ต่างๆ ของหินทั่วโลก อย่างเช่นที่ ป่าหินใหญ่ หินส่วนใหญ่มีรูปเหมือนเป็นดาบ เมื่อไปถึงอีกแห่งหนึ่ง หินจะมีรูปคล้ายเจดีย์ ไปถึงอีกที่หนึ่ง หินที่นั่นก็ดูเหมือนเห็ด มีทั้งสีดำและสีเหลือง มีผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเคยบอกว่า เมื่อมาถึงป่าหินแล้ว รู้สึกเดี๋ยวก็อยู่คิวบา เดี๋ยวก็ถึงสเปน เหมือนกับว่า ป่าหินในทั่วโลกได้ย้ายมาอยู่ที่นี่วางแสดง ป่าหินคุนหมิงนับเป็นพิพิธภัณฑ์ของป่าหินทั่วโลก ซึ่งมีคุณค่ามาก"ภายในป่าหินมีทางแยกมากกว่า 400 สาย มีจุดท่องเที่ยวกว่า 200 จุด จึงได้สมญานามว่า วังวนใต้ทะเล " หินลักษณะสวยงามแปลกตาเหล่านี้ล้วนเป็นหินปูนที่แต่เดิมอยู่ใต้ผิวน้ำและเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของผิวโลกหินเหล่านี้จึงถูกดันให้โผล่ขึ้นเหนือผิว น้ำกลายเป็นภูมิทัศน์ที่งดงามโดดเด่นป่าหินแห่งนี้ประมาณกันว่า มีอายุราว 270 ล้านปี ป่าหินแห่งนี้แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ คือป่าหินน้อย (Minor stone forest) และป่าหินใหญ่ (Major stone forest) และอีกส่วนหนึ่งที่มีความงดงามไม่แพ้กันคือ
ส่วนของป่าหินนอก(Outer stone forest) ซึ่งอยู่บริเวณรอบนอกของป่าหินน้อยและป่าหินใหญ่ตามเส้นทางถนนรอบๆป่าหิน น้อยป่าหินใหญ่ที่เรียบไปตามป่าหิน นอกนั้นมีวิวทิวทัศน์เป็นทุ่งดอก Cosmos หลากสี ป่าหินน้อยก็เต็มไปด้วยก้อนหินรูปร่างแปลกๆจำนวนมาก หยุดยังลานโล่งที่ล้อมรอบไปด้วยหินก้อนมหึมาขึ้นตระหง่าน ซึ่งที่นี่มีก้อนหินสัญลักษณ์ของป่าหินคุนหมิง โดยหินก้อนนี้มีชื่อว่า "อาซือหม่า" เป็นภาษาอาข่าชนพื้นเมืองในแถบป่าหินความโดดเด่นของหินอาซือหม่านั้น คนจีนจินตนาการเป็นรูป ด้านข้างของสาวชาวอาข่าสวมหมวกแบกตะกร้าใส่ดอกไม้ไว้ที่ด้านหลังป่าหินใหญ่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของ อุทยานฯ ที่นี่มากมายเต็มไปด้วยหินสารพัดรูปแบบให้เลือกชม นับเป็นเขตทัศนียภาพที่มีลักษณะเฉพาะตัวและมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดภายในบริเวณป่าหินใหญ่ มีจุดท่องเที่ยวหลายแห่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งหลาย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.programholidays.com
ประตูมังกร เขาซีซาน  นานประตูมังกร - คนจีนกล่าวไว้ว่ามาถึงคุนหมิงจะต้องไปลอดประตูมังกร เมื่อลอดแล้วฐานะจะเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งร้อยเท่า มีตำนานเล่ากันมาว่า ในสมัยก่อนแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดคือแม่น้ำเหลืองจะมีปลาหลีหือซึ่งเป็นปลาประจำชาติของจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ครั้งหนึ่งเกิดน้ำท่วมทำให้ปลาไหลไปอยู่ตามแม่น้ำสายอื่น เมื่อปลาไปอยู่แม่น้ำอื่นปลาไม่ชินกับคุณภาพน้ำจึงมีความพยายามว่ายทวนน้ำเพื่อกลับไปอยู่ในแม่น้ำเหลืองของปลา ท่านเลยสั่งให้ไปสร้างประตูตรงแม่น้ำเหลือง ถ้าปลาตัวไหนกระโดดข้ามประตูได้ ท่านก็จะให้เป็นมังกร ถ้าปลาตัวไหนกระโดดข้ามไม่ได้ ก็ต้องไปอยู่ในแม่น้ำเหลือง ปลาก็เลยมีความพยายามไปกระโดดข้ามประตูเพื่อเป็นมังกร เลื่อนจากปลาเป็นมังกรถือว่าฐานะของปลาเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า ดังนั้นประตูมังกรเหมือนเป็นการสอนคนจีนมาโดยตลอด คือเมื่อเรามีความพยายามก็จะประสบความสำเร็จ ข้อมูล ประวัติ - ประตูมังกร เขาซีซาน ตั้งห่างจากตัวเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน 29 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของวัดในลัทธิเต๋า สร้างในช่วง ค.ศ.1718-1843 ผ่านอุโมงค์หินที่สกัดไว้ตามไหล่เขา พร้อมชมศาลเจ้าและวัดจีนลัทธิเต๋า ซึ่งสร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้านที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับ 1,000 ปี ชมความงดงามของ ทะเลสาบคุนหมิง เตือนฉือ จากมุมมองจากที่สูง มาลอดประตูมังกร หลงเหมิน ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง เชื่อกันว่าเป็น ประตูแห่งความสิริมงคล ซึ่งถ้าผู้ใดได้เดินลอดผ่านประตูแห่งนี้จะประสบแต่ความสำเร็จโชคดี ประตูแห่งนี้ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมหน้าผา ในการจะลอดประตูมังกรได้นั้นจะต้องพิชิตเขาซีซานให้ได้ก่อน โดยการเดินขึ้นบันไดประมาณ 300 กว่าขั้น บริเวณทางเดินขึ้นเขาซีซานนั้นจะมีจุดพักต่างๆ หลายจุด จุดแรกจะพบ "ศาลเจ้าหวางหลินกวง" ข้างๆ องศาลเจ้าจะมีรูปที่แกะสลักบนหินเป็น "เทพเจ้าแห่งโชคลาภ" คนจีนถือว่าเมื่อเอามือลูบที่ก้อนทองที่ท่านถือไว้ แล้วนำมาใส่กระเป๋าของเรา เหมือนกับขอเงินทองกับท่าน
ขอให้ร่ำรวย เดินไปเรื่อยๆก็จะพบที่พักจุดต่างๆ บริเวณจุดพักต่างนี้จะเห็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย เช่น "บ่อน้ำวัวกตัญญู" "ศาลเจ้าแม่กวนอิมประทานบุตร" หรือ "เจ้าแม่กวนอิมส่งลูก" และจุดสุดท้าย คือ "ประตูมังกร" หรือศาลเจ้ามังกรหรือไข่มังกร เพื่ออธิฐานขอโชคลาภ มีสองวิธีในการขอพร คือ ใช้มือขวาไปจับแก้วมังกรแล้วอธิฐาน อีกวิธีหนึ่งคือใช้มือซ้ายจับแก้วมังกร มือขวาจับหางปลา ซึ่งก็คือปลาที่กระโดดข้ามประตูแล้วกลายเป็นมังกร ในการลูบหรือจับปลาคือขอให้เหลือกินเหลือใช้

ขอขอบคุณรูปภาพจาก ww.mcptravel.com

วัดหยวนทง เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของมณฑลยูนนาน สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618 – ค.ศ.907) จนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันวัดหยวนทงจะเป็นลักษณะของวัดในสมัยราชวงศ์ชิง
เนื่องจากวัดนี้ได้ถูกทำลายในสมัยราชวงศ์หมิง และได้รับการบูรณะโดยหูซาน ผู้เป็นคนพลิกประวัติศาสตร์จีน เป็นผู้ที่ทำให้ประเทศจีนเกิดราชวงศ์ชิง ภายในวัดที่ศักดิ์สิทธิ์และมีชื่อเสียงแห่งนี้
เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาถึง 3 นิกาย ได้แก่นิกายมหาญาณของพม่า นิกายหินญาณของไทย และนิกายลามะของธิเบตวัดหยวนทง เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี ตั้งอยู่ที่ถนนหยวนทงเจียง เป็นอารามทางพระพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในคุนหมิง ภายในวัดตกแต่งร่มรื่นสวยงาม กลางลานมีสระน้ำขนาดใหญ่มีสะพานข้ามไปสู่ศาลาแปดเหลี่ยมกลางสระ เมื่อเดินเข้าภายในวัดพระองค์แรกที่เราได้เจอคือ “พระสังฆจาย” หรือที่ชาวจีนเรียกว่า พระในอนาคต จะเป็นพระองค์แรกที่ยิ้มและต้อนรับผู้คนที่เข้ามาไหว้พระ เบื้องหลังของพระสังฆจายจะมีพระอยู่องค์หนึ่งที่เรียกว่า อุยโถว เขียนว่า อุ่ยทอ สำหรับพระองค์นี้เป็นพระที่มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของวัด ดังนั้นเราจะเห็นพระอุ่ยทอหันหน้ามองไปทางวิหารตลอดเวลา นอกจากนี้สองข้างของพระอุ่ยทอจะมีเท้าจตุโลกกบาล ซึ่งคนจีนเวลาจะไหว้พระจะไหว้ให้ครบทั้งสี่ทิศ คือทิศเหนือเกี่ยวกับพ่อแม่ ทิศตะวันออกเกี่ยวกับครู ทิศใต้เกี่ยวกับครอบครัว
และทิศตะวันตกเกี่ยวกับเพื่อนฝูง มีสะพานข้ามไปสู่ศาลาแปดเหลี่ยมกลางสระตั้งอยู่กลางสระน้ำมรกต ซึ่งเป็นสระน้ำสีเขียว มีสัตว์น้ำทั้งปลา ทั้งเต่าอยู่มากมาย ศาลาแปดเหลี่ยมหลังนี้เป็นศาลา
ที่อู๋ซานกุ้ยสร้างในสมัยราชวงศ์ชิง ในศาลาประดิษฐาน “เจ้าแม่กวนอิมพันกร” และเจ้าแม่กวนอิมพม่า หรือเรียกว่า “เจ้าแม่กวนอิมหยก”ในวิหารส่วนหลัง ภายในวัดหยวนทงนี้ ยังเป็นวิหารที่นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมากที่เดินทางมาถึงนครคุนหมิง จะต้องแวะมาสักการะบูชาอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองเหลือง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานให้อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดหยวนทงแห่งนี้


สนใจทัวร์คุนหมิง ตงชวน ดูรายละเอียดได้ที่
http://www.doubleenjoy.com/ทัวร์เที่ยวจีน/ทัวร์คุนหมิง.aspx