วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ต้าลี่

เจดีย์ 3 องค์ วัดฉงเซิ่ง
ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://abroad-tour.com
         เจดีย์ 3 องค์  ซึ่งตั้งอยู่ใน  วัดฉงเซิ่ง  อยู่ห่างจากเมืองโบราณต้าหลี่ไปทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตรบริเวณด้านหลังของเจดีย์แห่งนี้เป็นภูเขาชังซานซึ่งมีความสูงสง่างาม และด้านหน้าเป็นทะเลสาบเอ๋อไห่ที่สวยงามกว้างใหญ่ สถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองต้าลี่เป็นวัดที่สร้างในสมัยราชวงค์ถังของจีนในสมัยที่พุทธมหายานเจริญรุ่งเรือง  โดยสร้างเจดีย์องค์หลักมีชื่อว่าเจดีย์  "เชียนหลินถ่า" สูงประมาณ 70  เมตร มี 16 ชั้นเป็นเจดีย์ที่สร้าง   องค์แรกพร้อมๆกับการสร้างวัด และวิหารองค์กลางอันเป็น ที่ตั้งประดิษฐานองค์พระสังกระจายอันเป็นพระพุทธรูปที่แสดงถึงความมั่งคั่งของอาณาจักรต้าหลี่ แสดงถึงความร่ำรวยของพลเมือง และความสงบสุขของชาวเมือง

เมืองโบราณต้าหลี่

ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://abroad-tour.com
       เมืองโบราณต้าหลี่ สร้างขึ้นมากว่า 1000 ปีก่อน ถึงแม้ได้ผ่านกาลเวลามาช้านาน แต่เมืองโบราณแห่งนี้ก็ยังคงอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์อย่างมาก นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวจะเห็นประตูเมืองทั้งด้านใต้และด้านเหนือซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงกันตามสองฟากของถนนสายเก่าแก่จะมีบ้านเรือนโบราณปลูกสร้างไว้อย่างกระจัดกระจาย มีถนนสายเก่าแก่ตัดผ่านตัวเมืองโบราณแห่งนี้
          ซึ่งในปัจจุบัน  ได้กลายเป็นถนนย่านการค้าที่มีตวามเจริญเป็นอย่างมาก ตามสองข้างถนนเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ ซึ่งจะทั้งพ่อค้าชนชาติไป๋ที่แต่งกายประจำชาติ มาขายสินค้าพื้นเมืองต่างๆ เช่น หินอ่อนต้าหลี่ ผ้าพื้นเมืองและเครื่องเงิน  เป็นต้น  ภายในเมืองโบราณแห่งนี้ยังมีถนนเล็กๆสายหนึ่งจากทาง  ทิศตะวันออกไปสู่ทางทิศตะวันตก สองฟากของถนนสายนี้ มักจะเต็มไปด้วย ภัตตาคาร อาหารจีน และอาหารตะวันตก นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟและร้านน้ำชาที่มีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติ อาศัยอยู่ ถนนสายนี้จึงขึ้นชื่อว่า "ถนนสายต่างชาติ" ถนนสายนี้มีกลิ่นอายของความเก่าแก่และ มีความความทันสมัยผสมผสานกัน จึงทำให้สามารถดึงดูดชาวต่างประเทศจำนวนมากให้หลั่งใหลกันไปท่องเที่ยวตามถนนสายนี้ อย่างไม่ขาดสาย นับเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม แห่งหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้

ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://abroad-tour.com

วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ลี่เจียง

ภูเขาหิมะมังกรหยก
ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://abroad-tour.com
ภูเขาหิมะมังกรหยก หรือ อวี้หลงเซี่ยซาน
       เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าต่างๆ ในลี่เจียง ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเก่าลี่เจียง เป็นภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่าน ซึ่งมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี มีทั้งหมด 12 ยอด ยอดที่สูงที่สุดของเทือกเขานี้สูงจากระดับน้ำทะเล 5,596 เมตร ยอดสูงที่สุดชื่อ ซานจือโต่ว ทิวเขาแห่งนี้ประกอบไปด้วยสภาพแวดล้อมต่างๆ ทั้งหุบห้วย ธารน้ำ แนวผา และทุ่งหญ้าน่าซี ทิวเขาแห่งนี้เมื่อมองจากระยะไกล จะเห็นเป็นลักษณะคล้ายมังกรกำลังเลื้อย สีขาวของหิมะที่ปกคลุมอยู่นั้นดูราวกับหยกขาว ที่ตัดกับสีน้ำเงินของท้องฟ้า คล้ายมังกรขาวบนฟากฟ้า ทิวเขาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า ภูเขาหิมะมังกรหยก JADE DRAGON SNOW MOUNTAIN นับว่าเป็นชื่อที่เหมาะสมกับเทืองเขานี้มาก นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวก็ไม่ลืมที่จะบันทึกภาพกลับมาเพื่อเป็นที่ระลึก
       นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นสู่จุดชมวิวบนยอดเขาที่ความสูงกว่า 3,356 เมตร และสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 4,506 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์และธรรมชาติบนจุดที่สวยงามที่สุด ตลอดสองข้างทางที่ขึ้นยอดเขา ชื่นชมและดื่มด่ำกับความหนาวเย็นของธรรมชาติ อีกทั้งภูเขาหิมะมังกรหยกแห่งนี้ ยังเป็นที่มาของตำนาน ชนเผ่าน่าซี ที่อาศัยอยู่ในเขตที่ราบแถบนี้มานานนับพันปี ทิวเขาแห่งนี้มีพัมธุ์พืชปกคลุมอย่างหนาแน่น ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้ป่าจะผลิบานมีสีสันตระการตา ผู้คนจะพากันต้อนสัตว์เลี้ยง พวก แพะ แกะ และจามรีเพื่ออกมากินหญ้า

สระน้ำมังกรดำ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://abroad-tour.com
     สระน้ำมังกรดำ (Heillongtan, Black Dragon Pool) หรือเฮยหลงถัน อยู่ในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ซึ่งเรียกว่า สวนยู้วฉวน (Yuquan) ตั้งอยู่ในตัวเมืองลี่เจียง ห่างจากตัวเมืองเก่าลี่เจียงไปทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 11,390 ตารางเมตร สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1737 สมัยราชวงศ์ชิง (แมนจู) สระน้ำมังกรดำมีจุดเด่นที่ความใสของน้ำที่ใสราวกับมรกต นอกจากนี้ ภายในสวนยังมีการสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมของชาวฮั่น ทิเบต และน่าซี ไว้ด้วยกัน ในสวนแห่งนี้มี พิพิธภัณฑ์ศิลปะตงปา ด้านในของพิพิธภัณฑ์มีสิ่งที่แสดงถึงวัฒนธรรมตงปามากมาย เช่น รูปภาพต่างๆ และอักษรตงปาซึ่งมีลักษณะคล้ายกับอักษร Hieroglyphics ของอียิปต์
     สระมังกรดำ นี้มีที่มาจากตำนานเล่าขานกันว่าในอดีตมีคนพบเห็นมังกรดำปรากฏกายใต้น้ำบ้าง ผุดขึ้นมาจากสระน้ำบ้าง บรรยากาศภายในสวนนั้นเงียบสงบและงดงามด้วยบึงน้ำใสสะอาดสะท้อนภาพทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมะมังกรหยกได้อย่างชัดเจน ว่ากันว่าทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมะมังกรหยกที่มองจากบริเวณสระมังกรดำเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของจีน

วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ฮาร์บิน


เกาะพระอาทิตย์ (Sun Island)
        
          ไท่หยางต่าว (เกาะพระอาทิตย์) เกาะขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำซงฮัวเจียง มีเนื้อที่ประมาณ 3,800 เฮคเตอร์ เดิมเป็นสถานที่พักฟื้นของกรรมกรใช้แรงงานเมืองฮาร์บิ้น บริเวณทางเข้ามีป้ายหินเขียนว่า ไท่หยางเต่า เป็นสถานที่หนึ่งในการจัดเทศกาลแกะสลักหิมะน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง กำแพงเมืองจีน หอฟ้าเทียนถาน และอื่นๆ อีกมากมาย และที่โดนเด่นที่สุดคงจะเป็น ลานน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ของแม่น้ำซงฮัวเจียง ที่ดึงดูดสายตาทุกคนด้วยการโชว์การกระโดดน้ำและว่ายน้ำ ของเหล่าผู้สูงอายุที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส นี่แหละ อิอิ ขนลุกแทนจริงๆ เลย
          ไท่หยางต่าว (เกาะพระอาทิตย์) สถานที่สวยงามร่มรื่น ชมความงามของเมืองชนบทที่เงียบสงบและมีมนต์เสน่ห์ นับเป็นสถานที่อาบแดดที่วิเศษสุด นอกจากนั้นยังมีเรือ, จักรยาน และรถม้าลากสไตล์ยุโรปไว้บริการให้เช่าอีกด้วย ส่วนในช่วงฤดูหนาวเมื่อเกาะแห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ก็จะกลายเป็นสถานหย่อนใจในอุดมคติ ที่เหมาะอย่างยิ่งกับกิจกรรมหลากหลายชนิดบนลานน้ำแข็ง อาทิเช่น สเก็ตน้ำแข็ง , เลื่อนหิมะ , และ ชมนิทรรศการและศิลปกรรมแกะสลักหิมะประจำปีของฮาร์บิ้น เกาะสุริยันถือเป็นสถานที่จัดแสดงการแกะสลักหิมะน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของ ประเทศจีนที่โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันนี้ท่านสามารถชมการแสดงการแกะสลักหิมะน้ำแข็งในอาคารของเกาะ สุริยันนี้ได้ ชมการแกะสลักน้ำแข็งกำแพงเมืองจีน สวนหิมะ และอีกหลากหลายแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจีน ท่านสามารถถ่ายรูปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เหมือนกับท่านได้อยู่ในนิทรรศการแกะสลักหิมะน้ำแข็งอย่างแท้จริง อย่างที่เห็นในปัจจุบัน


โบสถ์เซ็นต์โซเฟีย



ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.abroad-tour.com
โบสถ์เซนต์โซเฟีย (St.Sophia Church)
         ซึ่งออกแบบและสร้างโดยสถาปนิกชาวรัสเซีย เมื่อก่อนเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญต่างๆ ของชาวรัสเซียแต่มาถูกทำลายตอนปฏิวัติวัฒนธรรม และได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยพยายามรักษารูปแบบเดิมไว้ให้ได้มาก ที่สุด ซึ่งใช้เวลาถึง 9 ปี โดยเริ่มต้นสร้างในปี ค.ศ.1923 เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1932 ถือได้ว่าเป็นโบสถ์ Greek Orthodox ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกไกลออก ตัวโบสถ์สูง 53 เมตร มีโถงหลักที่มีหลังคารูปหัวหอมสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทม์คล้าย กับสถาปัตยกรรมของจัตุรัสแดงในกรุงมอสโคว แต่ในปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นศูนย์ศิลปะและสถาปัตยกรรม แสดงภาพถ่ายขาวดำเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองฮาร์บิน
          เนื่องด้วยเวลาผ่านไปยาวนานและเคยถูกทำลายโดยน้ำมือมนุษย์ โบสถ์เซนท์โซเฟียจึงเคยตกอยู่ในภาวะที่เงียบเหงาและไร้บทบาทช่วงหนึ่งเช่น เดียวกันกับโบสถ์อื่นๆอีกหลายแห่งในเมืองฮาร์บิน เมื่อปี 1997 เทศบาลเมืองฮาร์ปินได้บูรณะซ่อมแซมโบสถ์เซนท์โซเฟียใหม่ ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นศาสนสถานสำคัญที่มีบทบาทขึ้นมาใหม่อีกครั้งและ สะท้อนสถาปัตยกรรมที่งดงามสมบูรณ์แห่งหนึ่งที่ผู้คนทั่วไปให้การยอมรับจน กระทั่งถึงปัจจุบัน
           โบสถ์เซนท์โซเฟียตั้งตระหง่านอยู่บนถนนจงยางซึ่งเป็นถนนย่านการค้าที่เจริญ ที่สุดของเมืองฮาร์บิน ดูโอ่อ่าสง่างามและมีความโดดเด่นสะดุดตาท่ามกลางย่านการค้าอันทันสมัย
            ปัจจุบัน ในฐานะพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งอันสะท้อนสถาปัตยกรรมที่งามสมบูรณ์ โบสถ์เซนท์โซเฟียได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแห่ง หนึ่งของเมืองฮาร์บิน นอกจากโบสถ์เซนท์โซเวียจะเป็นโบราณสถานที่แสดงผลงานโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม แล้วยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและแหล่งบันเทิงหลายรูปแบบของชาวเมืองฮา ร์บิน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างประเทศ

ถนนจงหยาง
       นับเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงไม่แพ้โบสถ์เซนท์โซเฟียในเมืองอาร์บิน ถนนจงยางเป็นถนนที่ปูด้วยหินสีเขียวอ่อนทั้งสาย เป็นถนนการค้าที่ขึ้นชื่อของเมืองฮาร์บิน ตามสองข้างทางของถนนสายนี้มีสิ่งก่อสร้างสไตล์ต่างประเทศปรากฏอยู่เป็นจำนวน มาก ในแต่ละวันจะเห็นผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ไม่ขาดสาย
       ถนนจงยางเป็นถนนเก่าแก่ที่มีประวัตินับร้อยปีแล้ว เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี 1898 เดิมมีชื่อว่า “จงกว๋อต้าเจียน” ซึ่งแปลเป็นไทยว่า “ถนนใหญ่จีน”เมื่อปี 1925 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “จงยางต้าเจียน” ซึ่งแปลเป็นไทยว่า “ถนนใหญ่กลาง”ถนนสายนี้มีสไตล์การก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ตามสองข้างทางที่สำคัญมีอาคารบ้านเรือนสไตล์ยุโรปมากถึง ๗๑ แห่งซึ่งส่วนใหญ่สร่างขึ้นระหว่างปี 1903 ถึง ปี 1927 มีลักษณะพิเศษที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
        แม้ว่าความรุ่งโรจน์ในอดีตของถนนใหญ่จงยางได้ค่อยๆ จืดจางลงท่ามกลางแสงสี ทันสมัยอันละลานตา แต่ทว่า อาคารบ้านเรือนสถาปัตยกรรมยุโรปที่อยู่เคียงข้างห้างสรรพสินค้าอันทันสมัย มักจะทำให้ผู้คนหวนระลึกถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตของถนนใหญ่จงยางแห่งนี้เสมอ และทุกวันนี้ ถนนการค้าที่มีชื่อ สายนี้ก็ยังคงเป็นสวรรค์แห่งการช็อปปิ้งของการมาทัวร์ฮาร์บิ้น ไม่เปลี่ยนแปลง

สนใจทัวร์ฮาร์บิ้น ดูรายละเอียดได้ที่
http://www.doubleenjoy.com/ทัวร์เที่ยวจีน/ทัวร์ปักกิ่ง-ฮาร์บิ้น.aspx

เฉินตู

เขาง้อไบ๊
ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.abroad-tour.com
เขาง้อไบ๊ หรือ เขาเอ๋อเหมยซัน
      เป็นภูเขาห่างจากเฉินตูราว 160 กิโลเมตร ชื่อของภูเขาแห่งนี้ได้มาจากรูปทรงของภูเขาที่มีลักษณะคล้ายคิ้ว ภูเขาแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาและ ศาสนาเต๋าในประเทศจีนโดยมีอารามต่างๆ 151 แห่ง แต่ส่วนใหญ่ทรุดโทรม ยังคงเหลือที่เที่ยวชมได้ 20 แห่ง เอ๋อเหมยซาน ยอดเขาสูงถึง 3,077 เมตร ช่วงฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุม ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดหัวจ้วง
      เขาเอ๋อเหมยซัน เรียกอีกชื่อว่า ต้ากวงหมิงซัน ‘เทือกเขาแห่งแสงสว่าง’ เป็นหนึ่งในสี่ขุนเขาใหญ่ที่เป็นรากฐานของพุทธศาสนาในจีน ( เอ๋อเหมยซันในมณฑลเสฉวน พู่ถัวซันในมณฑลเจ้อเจียง จิ่วหัวซันในมณฑลอันฮุย และอู่ไถซันในมณฑลซันซี ) ตั้งอยู่ทางตอนกลางส่วนใต้ของมณฑลเสฉวน บนพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างที่ราบสูงทิเบต กับที่ราบแอ่งกระทะเสฉวน มียอดเขาพระพุทธรูปหมื่นองค์ วั่นฝอ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดโดยมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,099 เมตร
       ตามหลักฐานทางโบราณคดี ชี้ให้เห็นว่า เมื่อกลางคริสต์ศตวรรษที่ 1 บรรพบุรุษของชาวจีนรังสรรค์และก่อร่างอารยธรรมแห่งพุทธศาสนา ซึ่งเผยแผ่มาจากดินแดนชมพูทวีปตาม 'เส้นทางสายแพรไหม' ขึ้นบนเขาเอ๋อเหมยซันเป็นครั้งแรก โดยการก่อสร้างวิหารผู่กวงเตี้ยนบนยอดเขาจินติ่ง นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่มีการปลูกสร้างโบราณสถาน รูปสลัก การประดิษฐ์สังฆภัณฑ์ งานศิลปะ ดนตรี ตลอดจนริเริ่มพีธีกรรมทางศาสนา ในเวลาต่อๆมา
        ศิลปะวัดพุทธที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ปรากฏบนเขาเอ๋อเหมยซัน ได้รับการโจษขานให้เป็น ‘มงกุฎสุดยอดในปฐพี’ ที่ประดับอยู่ ณ ยอดเขาแห่งพุทธ วัดวาอารามที่อยู่บนเขารวมทั้งสิ้น 30 กว่าแห่ง ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีอาณาเขตกว้างขวางมีอยู่ถึง 10 กว่าแห่ง และยังประกอบด้วยกลุ่มโบราณสถานสมัยราชวงศ์หมิงและชิงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี พระพุทธรูปสลักสมัยถังและซ่ง เจดีย์หยก และกลุ่มสุสานที่หน้าผาสมัยราชวงศ์ฮั่น ยังอุดมด้วยโบราณวัตถุล้ำค่าอีกกว่า 7,000 กว่าชิ้น นอกจากความโด่งดังในฐานะที่เป็นยอดเขาแห่งตำนานของแผ่นดินพระภูผาเซียน และวัฒนธรรมประวัติศาสตร์อันเรืองรองแล้ว เสน่ห์งดงามของธรรมชาติอันตระการตา ยังทำให้ชื่อเสียงของเทือกเขาแห่งนี้ขจรขจายไปทั่วทั้งในและต่างประเทศ

พระพุทธรูปสลักเล่อซัน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.abroad-tour.com
 พระพุทธรูปสลักเล่อซัน ประติมากรรมระดับโลก
        พระพุทธรูปสลักเล่อซัน ตั้งอยู่บริเวณที่มีแม่น้ำไหลผ่านสามสาย คือ ต้าตู้เหอ ชิงอีเจียง และหมินเจียง ในเขตเมืองเล่อซัน อาณาบริเวณโดยรอบยังประกอบด้วย เขาหลิงหยุน สุสานในถ้ำริมผาม๋าเฮ่า เขาอูโหยว และบริเวณเขาอูโหยวที่เชื่อมต่อกับเขาหลิงหยุนซันและเขากุยเฉิงซัน ยังประกอบขึ้นเป็นทิวทัศน์อันน่าพิศวงรูปพระนอนขนาดใหญ่ซึ่งมีความยาวราว 1,300 เมตร รวมพื้นที่ราว 8 ตร.กม. ซึ่งทั้งหมดรวมอยู่ในเขตทิวทัศน์ของเทือกเขาเอ๋อเหมยซัน
         พระพุทธรูปสลักริมหน้าผาเล่อซัน สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิถังเสวียนจง แห่งราชวงศ์ถัง ต้นรัชสมัยไคหยวน ปี ค.ศ.713 โดยการเจาะสกัดหินบนเขาเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งห้อยพระบาท หลังพิงเขา หันหน้าสู่แม่น้ำหมินเจียง มีความสูง 71 เมตร กว้าง 10 เมตร ซึ่งใหญ่กว่าพระพุทธรูปหินสลักที่ถ้ำผาหยุนกัง(ต้าถง)ในมณฑลซันซี(มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี 2001)ถึง 3 เท่า พระพุทธรูปเล่อซันสร้างขึ้นโดยจำลองแบบมาจากพระอาจารย์ไห่ทง แห่งวัดหลิงหยุน ใช้เวลาก่อสร้างนาน 90 ปี จนมาสำเร็จในปี ค.ศ.803 ในสมัยจักรพรรดิถังเต๋อจง แกะสลักขึ้นด้วยฝีมือช่างงามวิจิตร ลายเส้นที่พลิ้วไหวและสัดส่วนขององค์พระที่ได้สมดุล เต็มไปด้วยพลังที่แผ่ขยายออกไปกว้างใหญ่ไพศาล ล้วนสะท้อนถึงศิลปวัฒนธรรมอันเฟื่องฟูในยุคราชวงศ์ถัง
          สิ่งหนึ่งที่สามารถอนุรักษ์องค์พระเล่อซันให้คงความสง่างามมาจนถึงวันนี้ได้ คือ การเจาะทางระบายน้ำไหลด้านหลังกรรณทั้งสองและเศียรองค์พระ เพื่อกันการกัดเซาะของน้ำฝนไม่ให้ไหลบนตัวองค์พระและทำลายทัศนียภาพขององค์พระพุทธรูป ทำให้องค์พระไม่สึกกร่อนเสียหายมาก สามารถคงรูปลักษณ์ใกล้เคียงกับเมื่อพันกว่าปีก่อน

 ภูเขาหิมะซีหลิง
       ภูหิมะซีหลิงเป็นสถานที่ตากอากาศ ทิวทัศน์งามเด่นแห่งหนึ่งของประเทศจีน อยู่ที่เมืองต้าอี้ มณฑลเสฉวน ห่างจากนครเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑล 95 กิโลเมตร ครอบคลุมเนื้อที่ 483 ตารางกิโลเมตร ยอดเขาต้าสวยถัง สูง 5,364 เมตร มีหิมะปกตลอดปี เป็นยอดภูที่สูงที่สุดในเฉิงตู
        ตั้งอยู่บนที่ราบยอดเขาบนระดับความสูงประมาณ 2,200 - 2,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล ครอบคลุมพื้นที่ราว 8 ตารางกิโลเมตร อุณหภูมิในช่วงฤดูหนาวอยู่ระหว่าง ลบ 10 ถึง 10 องศาเซลเซียส บนลานสกีจะมีความหนาของหิมะประมาณ 60 - 100 เซนติเมตร นับเป็นสกีรีสอร์ทที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเล่นสกีมากที่สุด สถานที่แห่งนี้พรั่งพร้อมไปด้วยอุปกรณ์การเล่นสกีบนลานน้ำแข็งอย่างครบครัน ได้แก่ แผ่นเลื่อนหิมะ สกีหิมะ ม้าลากเลื่อนหิมะ บอลลูน สโนโมบิล เครื่องเล่นสไลด์ รวมทั้งกิจกรรมบนลานน้ำแข็งอีกมากมาย เนื่องจากอยู่ในความสูงระดับเดียวกันภูเขาแอลป์ คุณภาพหิมะและฤดูหิมะเช่นเดียวกับภูเขาแอลป์ ภูเขาซีหลิงจึงได้ชื่อว่า ภูแอลป์แห่งบูรพา